บริษัท มีสุข คอร์ปอเรชั่น (2006) จำกัด เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรรายแรกของเมืองไทย ผู้พลิกวงการอสังหาฯ ด้วยนวัตกรรมมิติใหม่ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ปัจจุบัน ทำรายได้หลายร้อยล้านบาท จากความสามารถของนักบริหารเลือดภูธรที่ชื่อ เฉลิม ทองสุข

             ความน่าสนใจของธุรกิจนี้คือ กว่าที่ คุณเฉลิม จะนำทัพธุรกิจภายใต้แบรนด์ Happy ก้าวขึ้นมาสู่ความสำเร็จเช่นวันนี้ได้นั้นไม่ง่าย ต้องฝ่าฟันร้อยพันปัญหา ถึงขั้น ‘เจ๊ง’ ไม่เป็นท่า คุณเฉลิม ก็ประสบมาแล้ว แล้วเขาเติบโตมาเป็นบริษัท อสังหาฯ ที่ลูกค้าวางใจ สร้างรายได้มหาศาล และเตรียมเติบโตไปอีกขั้นด้วยการหมายมั่นปั้นมือเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปี2565 ได้อย่างไร....จะเล่าให้ฟัง

          คุณเฉลิม ทองสุข  เป็นอดีตนักเรียนตีนดอยผู้ไม่เคยคอยความหวัง หากแต่เขาเลือกจะเป็นผู้สร้างทุกสิ่งที่ต้องการด้วยสมองและสองมือของเขาเอง ในวัยเด็กครอบครัวไม่ได้สุขสบายจึงทำให้เขาต้องทำงานหารายได้มาช่วยจุนเจือทางบ้านตั้งแต่อายุยังน้อย หากจะถามว่าอะไรคือความโชคดีที่สุดของเขาในวันนั้น นอกจากจะได้ต้นแบบของพ่อแม่ที่ขยันและทำงานหนัก ก็เห็นจะเป็นความมานะพยายามของเขาเองที่ดิ้นรนต่อสู้กับทุกอุปสรรคนั้นเรื่อยมาจนกระทั่งสอบเข้าเรียนที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี ได้สำเร็จ

           สายเลือดนักสู้อย่าง เฉลิม แน่นอนว่า ระหว่างเรียนปริญญาตรีไม่มีเสียหรอกที่จะรอพ่อ แม่ส่งเพียงอย่างเดียว อาชีพสุจริตทุกอย่างที่ทำได้ในเวลานั้น เขาทำหมด จวบจนเรียนหนังสือจบ คุณเฉลิมได้งาน ในตำแหน่ง Sale Engineer ที่หลายๆคนไม่ได้ปรารถนานัก เพราะส่วนใหญ่ต่างหวังว่าจะได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนรู้มาอย่างเต็มที่ แต่ที่นั่นก็ทำให้เขาเรียนรู้หลายสิ่งมากมายกับการเป็นนักขายและนักการตลาด  ทว่า จุดหมายที่แท้จริงของเขาไม่ใช่แค่การเฝ้ารอรับเงินเดือนในฐานะลูกจ้างไปวันๆ แต่เขาฝันใหญ่กว่านั้น นั่นก็คือการสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง คุณเฉลิม ใช้เวลาอยู่หลายปีในการลองผิดลองถูกและเรียนรู้จากบทเรียนมากมายในโลกธุรกิจที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน สั่งสมบ่มเพาะประสบการณ์จากความล้มเหลว จนกระทั่งถึงจุดหนึ่งจึงตกตะกอนได้ว่า ความเชี่ยวชาญที่ติดตัวมาจากการช่วยพ่อทำงานด้านก่อสร้างมาตั้งแต่เด็กและตัวเองมีสายเลือดก่อสร้างคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างทางเดินที่เป็นของเขาเองจริงๆ ได้ จึงเป็นที่มาของธุรกิจด้านงานก่อสร้าง ในนาม บริษัท มีสุข คอร์ปอเรชั่น (2006) จำกัด

           ตลอดระยะเวลากว่า 15 ปี ในสายอาชีพผู้รับเหมาก่อสร้าง คุณเฉลิม พบปัญหาเดิมๆ อยู่บ่อยครั้งซึ่งก็มักมีที่มาจากปัจจัยหลักๆ คือ คนงานลาออก ต้องรับคนใหม่เข้ามาแทนซึ่งในช่วงระหว่างรอนั้นก็เกิดเป็นสุญญากาศทางการปฏิบัติงาน ส่งผลให้งานเกิดความล่าช้า รวมไปถึงปัญหาเรื่องค่าต้นทุนวัสดุ อุปกรณ์ต่างๆ ในการก่อสร้าง ไหนจะข้อจุกจิกกวนใจอีกมากมายที่หากไม่สามารถควบคุมก็จะส่งผลให้งบประมาณบานปลาย อีกทั้งบ่อยครั้งเหตุการณ์ไม่เป็นเช่นที่คิด ทำให้ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของเขาขาดทุนซ้ำซาก คุณเฉลิม รู้สึกย่ำแย่แต่ไม่ถอดใจ

                จุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ ความพยายามมองหาโอกาส ในวิกฤตอยู่เสมอในตัวเขาเอง มีช่วงหนึ่ง คุณเฉลิม เดินทางไปดูงานต่างประเทศและได้เห็นวิธีการก่อสร้างแบบสำเร็จรูป เห็นว่าใช้การได้ดี ประกอบกับเล็งเห็นว่า ในประเทศไทยแทบจะยังไม่มีผู้เล่นในตลาดนี้ จึงเกิดไอเดียที่จะผลิตวัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้างขึ้นมาเองเพราะคิดว่าจะช่วยลดต้นทุนได้ หลังจากนั้นก็ต่อยอดมาเป็นโรงงานผลิตวัสดุ อุปกรณ์ก่อสร้างสำเร็จรูปซึ่งต้องใช้กำลังการผลิตอย่างมาก หากทำเพื่อใช้เองทีละน้อยๆ อย่างเดียวจะไม่คุ้มทุน คุณเฉลิม จึงเลือกผลิตวัสดุสำเร็จรูปในปริมาณที่มากๆ และขายต่อให้ผู้รับเหมารายอื่น เมื่อกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก จึงขยายเป็นบ้านสำเร็จรูป หรือ บ้านน็อคดาวน์ ที่มีความทนทาน มีแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย และค่าใช้จ่ายไม่แพง 

                ที่สุดแล้ว บ้านน็อคดาวน์ ระบบโมดูลาร์ ก็สร้างความสำเร็จให้เขาในเวลาต่อมา สาเหตุเพราะ ระบบสำเร็จรูปนั้น ตอบโจทย์ตลาดได้ทั้งในแง่ความเร็ว ปริมาณงาน และที่สำคัญด้านราคาที่ถูกกว่า ทั้งยังตอบคำถามที่คุณเฉลิมพยายามหาคำตอบตลอดมาว่า ทำอย่างไรธุรกิจรับเหมาก่อสร้างจึงจะไปรอด หลังจากนั้น คุณเฉลิม ก็คิดต่อไปอีกว่า หากสามารถผลิตและขายได้มากกว่านี้ ก็จะยิ่งทำให้ต้นทุนการผลิตถูกลงไปอีก จึงเป็นที่มาของการสร้างนวัตกรรมมิติใหม่ในธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบแฟรนไชส์ ภายใต้แบรนด์ Happy Franchise ซึ่งโมเดลนี้ นับว่า วิน-วิน กันทุกฝ่าย คือ ลูกค้าก็ได้บ้านตามที่ต้องการด้วยงบประหยัดและใช้เวลาไม่นานในการก่อสร้าง ตัวแทนขายได้คอมมิชชั่น โรงงานขายบ้านได้มากขึ้น ต้นทุนถูกลง ความสามารถทางการแข่งขันด้านราคากับรายอื่นๆ ก็เกิดประสิทธิภาพตาม โดย HappyFranchise นั้นมีจุดแข็งในด้าน ระบบสำเร็จรูป หรือ ระบบผลิตในโรงงาน (Prefabrication) ซึ่งปัจจุบัน ติดตั้งบ้านสำเร็จรูปไปแล้วกว่า 1,000 หลัง และ โกดังสำเร็จรูปอีกมากกว่า 200 โครงการ

จะเห็นได้ว่า คุณเฉลิม ไม่เคยหยุดเดิน จากปัญหาด้านงานรับเหมาก่อสร้างที่รุมเร้า ค่อยๆเริ่มต้นจากธุรกิจเล็กๆ จนขยายขอบเขตเป็นบริษัทอสังหาฯ ระดับประเทศ มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท แล้ว บริษัท มีสุข คอร์ปอเรชั่น (2006) จำกัด ที่เตรียมสยายปีกเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอีกไม่ช้านี้ มีรายได้จากสินค้าและบริการอะไรบ้าง

1.happy house - บ้านสำเร็จรูป ประหยัดพลังงาน รับสร้างและต่อเติมบ้าน                                                                   
2.happy warehouse- โกดัง โรงงานสำเร็จรูปซึ่งเป็นระบบผลิตจากโรงงาน                                                                      
3.happy tools - เครื่องมือ เครื่องจักรก่อสร้าง                                                                                                               
4.happy- วัสดุก่อสร้าง                                                                                                                                          
5.happy Realestate? - อสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เช่า และเพื่อการลงทุน

นอกจากนี้ บริษัท มีสุข คอร์ปอเรชั่น (2006) จำกัด ยังมีการบริหารเชิงกลยุทธ์ด้านการตลาด ด้วยนวัตกรรม Digital Software Platform ที่พัฒนาขึ้นมาเอง อาทิ ใบเสนอราคาอัจฉริยะ บริการ Software บริหารจัดการ?โกดังเช่า? และระบบสัญญา Data Center

         เรื่องราวของ คุณเฉลิม บอกกับเราได้ว่า แม้ต้นทุนชีวิตตั้งต้นของคนเราจะมีไม่เท่ากัน แต่หากไม่ไร้ซึ่งความหวัง ความมานะ พยายาม และความอดทนเสียแล้ว ความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นได้ ถ้าฝันใหญ่ ก็ต้องลุยไปให้สุด ไม่หยุดพัฒนา และมองหาโอกาสใหม่ๆ รวมทั้งสร้างโอกาส จากวิกฤตให้ได้เสมอ หากเป็นได้ดังนี้ ไม่ว่าพื้นฐานคุณจะติดลบอย่างไร ร้อยล้านย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

fb_1 Friday 05 March 2021 / 2524 views